ลดความเสี่ยงเป็นโรคเหงือกบวมอย่างไรดี
ความแก่ชราและผลจาการไม่ใส่ใจดูแลร่างกาย โรคเหงือกบวมก็มีโอกาสมาเยือนคนวัยทองอย่างคุณได้! มาเรียนรู้วิธีการดูแลรักษาสุขภาพฟันอย่างถูกต้องกันเถอะ!
วัยทองกับโรคเหงือกบวม
ผู้หญิงวัยทองจะมีเหงือกร่นตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งภูมิต้านทานของร่างกายที่ลดลง จำนวนแบคทีเรียในช่องปากจึงเพิ่มขึ้นได้ง่าย หากทำความสะอาดภายในช่องปากไม่ดีพอ โรคเหงือกบวมก็จะถามหาคุณ
ความรุนแรงของโรคเหงือกบวม
หากเหงือกบวมแดง ปวดเจ็บ และเลือดออกเวลาแปรงฟัน แสดงว่าเริ่มมีอาการเหงือกบวม ถ้ามีรีบรักษา ต่อไปฟันจะเริ่มคลอน เวลากัดอาหารจะกัดไม่ได้เต็มแรง
หากเหงือกร่น ฟันคลอน จนเกิดช่องระหว่างเหงือกและฟัน เศษอาหารที่เข้าไปติดจะถูกหมักหมมด้วยเชื้อแบคทีเรียทำให้มีกลิ่นปากเหม็นจนเหงือกอาจอักเสบมาก มีหนอง และเป็นไข้
การดูแลรักษาฟัน
1.ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันหลังกินอาหาร
2.แปรงฟันให้ถูกวิธี ควรแปรงให้ถึงคอฟัน พยายามแปรงให้ถึงซี่ในสุด ไม่ใช้แปรงที่ขนแข็งเกินไป หลีกเลี่ยงการแปรงฟันแรงๆ
3.ตรวจสุภาพฟันภายในช่องปากทุกๆ 6 เดือน หากมีฟันพุหรือเป็นโรคเหงือกบวมจะได้รักษาได้แต่เนิ่นๆ
Tips
ถ้าทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟัน แปรงฝ้าที่ลิ้นบ้าง และใช้ไหมขัดฟันแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาบ้วนปากอีก เพราะน้ำยาบ้วนปากที่ขายกันส่วนใหญ่มีแอลกอฮอล์ผสม หากใช้บ่อยเกินไปจะทำให้ปากแห้ง น้ำลายลดลงส่งผลให้มีกลิ่นปากได้อีก
|
ควรใช้ยาสีฟันราคาแพง
และแปรงสีฟันที่มีคุณสมบัติพิเศษหรือป่าว
ไม่จำเป็น เพราะวิธีแปรงฟันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำความสะอาดช่องปาก และยาสีฟันที่ขายอยู่ในท้องตลาดก็ล้วนมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ซึ่งเพียงพอแล้ว
ส่วนแปรงสีฟันที่ดีนั้นปลายต้องเล็ก เพื่อซอกซอนทำความสะอาดได้ทั่วถึง ขนแปรงต้องนุ่ม ไม่แข็งมากเพราะอาจทำอันตรายต่อเหงือก และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือน
การรักษาด้วยฮอร์โมน
การรักษาด้วยฮอร์โมน (hormonal therapy) คือการเสริมฮอร์ […]
กินอะไรเพื่อบำรุงสายตา
เป็นที่รู้กันดีว่า แครอตมีสรรพคุณอย่างดีเยี่ยมในการป้อง […]
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็นสำหรับเรื่องนี้.....