กรณีศึกษา มะเร็งลำไส้
ปีนี้ผมอายุ 50 ปี เลือดกรุ๊ปเอ เดือนนี้ขณะถ่ายอุจจาระผมว่ามีเลือดสดปนอยู่ แต่ผมไม่รู้สึกว่าไม่สบายแต่อย่างใด คุณหมอส่องกล้องตรวจลำไส้ พบว่าบริเวณเหนือลำไส้ส่วนลงมีก้อนเนื้องอก 1 ก้อน ขนาด 1.2×1.5 เซนติเมตร หลังการตรวจเนื้อเยื้อ หมอยืนยันว่าเป็นเนื้อร้าย
คุณหมอบอกว่าจะผ่าตัดลำไส้ส่วนลงทิ้งเสีย แล้วทำเคมีบำบัดทันที แต่ตัวผมเองคิดอยากจะลองวิธีธรรมชาติบำบัด จึงไปขอความเห็นแพทย์อีกหลายท่าน ซึ่งล้วนแนะนำให้ผมผ่าตัดทันที แต่ผมต้องมีภาระต้องดูแลคุณแม่ซึ่งอายุมากแล้ว และมีบุตร 3 คนที่ต้องเลี้ยงดู ผมจึงลังเลมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับคุณหมออู๋โดยบังเอิญที่เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย โดยผมได้เข้าร่วมฟังการบรรยายเกี่ยวกับ “การดื่มกินอินทรีย์สารจากพืช”
หลังฟังการบรรยายแล้ว ผมมีความเชื่อมั่นมากกว่าเดิม เชื่อว่าธรรมชาติบำบัดจะช่วยชีวิตผมได้ ซึ่งคุณหมออู๋ใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงการดื่มกินของคนไข้ทำให้อาการป่วยดีขึ้น นี่คือวิธีที่ผมฝากความหวังไว้มากที่สุด เมื่อเสร็จสิ้นการบรรยายแล้ว ผมจึงไปพบคุณหมออู๋ ท่านดูเท้าซ้ายผมแล้วทราบทันทีว่าผมเป็นคนชอบกินเนื้อสัตว์ ท่านบอกกับผมว่า “คนเลือดกรุ๊ปเอไม่สามารถกินโปรตีนจากสัตว์” ทั้งเป็ด ไก่ วัว แพะ หมู อาหารทะเล และไข่ ท่านบอกว่าถ้าผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ต้องงดอาหารเหล่านี้อย่างเด็ดขาดทันที หลังจากนั้นท่านระบุอาหารอีกมากมายที่ผมไม่สามารถกินได้ ล้วนแต่เป็นของที่ผมชอบทั้งนั้น ที่แท้อาหารเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ผมเป็นมะเร็ง
ต่อมาท่านแนะนำผมว่าจะเสริมสร้างสุขภาพได้อย่างไรด้วยน้ำผักผลไม้ปั่น สลัดผักสด สารเสริมอาหาร และการนวดแบบง่ายๆ
สุดท้ายท่านกำชับผมว่า ก่อนดื่มกินอินทรีย์สารจากพืช ให้ผมไปตรวจเลือดหาสารบ่งชี้ดัชนีมะเร็งเสียก่อน อันได้แก่ CEA, CRP, AFP , CA19-9, CA72-4, CA50, CA15-3, (ล้วนต้องได้ค่าต่ำกว่า 0.5) และ AST, ALT, (ต่ำกว่า 5), ALP (ต่ำกว่า 40), LDH (ต่ำกว่า 120) และ TSH (ต่ำกว่า 1.8) 3 เดือนให้หลังค่อยไปตรวจเลือดหาดัชนีสารบ่งชี้มะเร็งอีกครั้ง เปรียบเทียบกับการตรวจครั้งก่อน ก็จะทราบว่าอาการของโรคดีขึ้นหรือไม่
ผมปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 3 เดือน อุจจาระไม่มีเลือดปนแล้ว ผลการตรวจเลือดพบค่าดัชนีมะเร็งอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ และเพื่อความสบายใจผมจึงตรวจลำไส้ด้วยการส่องกล้องอีกครั้ง ผลการตรวจยืนยันว่าเนื้องอกหายไปแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น สุขภาพของผมยังดีวันดีคืน ผมเชื่อว่าถ้าผมปฏิบัติเช่นนี้ต่อไปผมต้องเป็นคนสุขภาพดีมากแน่ๆ
หยุดการส่งสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
ผู้ป่วยชายท่านนี้รู้จักกับผมในการบรรยายที่เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ความดันดันโลหิตของเขาคือ 125/85 มิลลิเมตรปรอท มองในมุมของธรรมชาติบำบัดแล้ว ความดันเท่านี้สูงไปเล็กน้อย ความดันมาตรฐานควนอยู่ที่ 120/80 มิลลิเมตรปรอท
จากการดูเท้าซ้ายของเขาทำให้ทราบว่า เขาชอบกินเนื้อสัตว์มาก เขาก็ยืนยันว่า”เป็นนี้จริงๆ วันไหนไม่ได้กินเนื้อสัตว์ ผมจะรู้สึกไม่มีแรง”
ผมบอกเขาว่า คนเลือดกรุ๊ปเอไม่สามารถกินโปรตีนสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ วัว แพะ หมู อาหารทะเล และไข่ อีกทั้งยังไม่ควรกินน้ำแกงของเนื้อสัตว์เหล่านี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากจะได้สุขภาพที่แข็งแรงกลับคืนมา ก็ต้องงดอาหารทั้งปวงที่มีโปรตีนสัตว์ เพราะนี่คือสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นมะเร็งลำไส้ ถ้ายังไม่รู้จักงดอาหารเหล่านี้ รังแต่จะทำให้อาการของเขาทรุดลง
ผมกล่าวต่อว่า “เนื้อสัตว์เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณเป็นมะเร็ง คุณต้องงดอาหารประเภทปิ้ง ย่าง ทอด ผัด เสียด้วย เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากมาย ทำร้ายเซลล์ของเราและทำให้เซลล์มะเร็งขยายตัวอย่างรวดเร็ว
คุณควรหยุดอาหารประเภทแป้งทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นบะหมี่ ขนมปัง หมั่นโถว ขนมเปี๊ยะ คุกกี้ เพราะมีสารกันบูด สารเคมี และสารโบรมีน ที่ทำให้เกิดเนื้องอก โลหะหนักประเภทนี้จะทำให้กระบวนการเผาผลาญของร่างกายช้าลง ทำให้สารพิษสะสมในร่างกายมากขึ้น
ประการสุดท้าย คือ คุณต้องงดการดื่มนมวัวและผลิตภัณฑ์นมวัวทุกชนิด “อาหารเหล่านี้มีสารตกค้างคือสารเร่งการเติบโต ซึ่งจะไปเร่งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง”
ผมยังจำได้ว่า ขณะนั้นเขากล่าวอย่างเงื่องหงอยว่า “คุณหมออู๋ครับคุณตัดอาหารที่ผมชอบกินไปจนหมด ที่แท้อาหารพวกนี้เองที่ทำให้ผมเป็นมะเร็ง มิน่าผมจึงเป็นมะเร็งลำไส้ ผมจะไม่กินมันอีกแล้ว เพราะผมยังไม่อยากตาย”
ตรวจรักษา-ดูแลตัวเองอย่างไรในวัยทอง
อาการของคนวัยทองมีมากมาย จึงควรได้รับการตรวจรักษาโดยแพ […]
กินแบบผิดๆ ก่อมะเร็งจริงหรือ
การป้องกันโรคมะเร็งจะต้องเริ่มจาการกิน! พฤติกรรมการกินท […]
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็นสำหรับเรื่องนี้.....